บทความทั้งหมด
อบรมปฐมพยาบาล: หลักสูตรที่องค์กรควรมี เพื่อช่วยชีวิตได้จริงและผ่านมาตรฐานกฎหมาย

อบรมปฐมพยาบาล: หลักสูตรที่องค์กรควรมี เพื่อช่วยชีวิตได้จริงและผ่านมาตรฐานกฎหมาย

ทำไมองค์กรต้องอบรมปฐมพยาบาล

  • ลดความสูญเสีย: นาทีทอง (Golden minutes) ตัดสินผลลัพธ์ชีวิต—พนักงานที่มีทักษะช่วยชีวิตได้ก่อนถึงโรงพยาบาล
  • Compliance/ผ่านตรวจ: หลายอุตสาหกรรมต้องมีผู้ผ่านการอบรมปฐมพยาบาลหรือมีแผนฉุกเฉินที่ชัดเจน
  • วัฒนธรรมความปลอดภัย: สร้างความเชื่อมั่นให้พนักงานและผู้มาติดต่อ ลูกค้า และผู้ถือหุ้น

หลักสูตรอบรมปฐมพยาบาลมีอะไรบ้าง (โครงสร้างยอดนิยมในไทย)

แม้ชื่อเรียกแตกต่างกันตามสถาบัน แต่แกนเนื้อหาใกล้เคียงกัน แบ่งเป็น 3 ระดับหลักๆ

  1. หลักสูตรปฐมพยาบาลเบื้องต้น (Basic First Aid)
    • เวลาเรียนโดยทั่วไป 6–12 ชม.
    • เนื้อหาหลัก: การประเมินเหตุ/ผู้ป่วย, การห้ามเลือด/พันผ้า, การดูแลบาดแผล, แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก, การจัดท่าผู้ป่วย, ภาวะสำลัก, เป็นลม ฯลฯ
    • เหมาะกับองค์กรทุกประเภท โดยเฉพาะออฟฟิศ/รีเทล/คลังสินค้า
  2. มาตรฐานปฐมพยาบาล (Standard First Aid / 18 ชม. โดยประมาณ)
    • เนื้อหาเข้มข้นขึ้น เพิ่มเคสจำลอง (scenario) เน้นการตัดสินใจและการทำงานเป็นทีม
    • เหมาะกับโรงงาน/ไซต์งานที่มีความเสี่ยง และหน่วยงานที่ต้องมีเวรฉุกเฉิน
    • บางแห่งผนวก CPR + AED ให้ครบวงจร
  3. การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (Basic Life Support – BLS) / CPR & AED
    • ฝึก CPR ที่ถูกต้อง การใช้เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ (AED) สำหรับผู้ใหญ่/เด็ก
    • จำเป็นมากในพื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่น/ลูกค้าสาธารณะ เช่น ห้าง โรงแรม สนามกีฬา ฯลฯ
    • แนะนำอบรมซ้ำทุก 1–2 ปี เพื่อคงทักษะให้แม่นยำ
    • แนวทางในไทยอ้างอิงจากหลักสูตรมาตรฐานและเอกสารวิชาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (อ้างอิงเพื่อ E-E-A-T). training.redcross.or.th+1

ทิป: หากองค์กรมีความเสี่ยงเฉพาะ เช่น ทำงานที่สูง/ไฟฟ้า/สารเคมี ควรเสริมคอร์สเฉพาะทาง แล้วเชื่อมกับแผนฉุกเฉินภายใน

ใครควรเข้าอบรม — เลือกกลุ่มเป้าหมายให้คุ้มที่สุด

  • ทีมความปลอดภัย/แผนกบุคคล: เป็นแกนหลักในการตั้งทีมตอบสนองฉุกเฉิน
  • หัวหน้างาน/ทีมปฏิบัติการ: พบเหตุการณ์ก่อนเสมอ ต้องตัดสินใจได้เร็ว
  • พนักงานฟรอนต์/ต้อนรับ/บริการลูกค้า: มักเจอเหตุผู้มาใช้บริการป่วยกะทันหัน
  • อาสาสมัครภายใน (E-Team): กระจายทุกพื้นที่/กะการทำงาน เพื่อครอบคลุม 24/7

เนื้อหาที่ควรครอบคลุม (Curriculum Essentials)

  • ประเมินสถานการณ์อย่างปลอดภัย (Scene safety)
  • Primary survey / Secondary survey (เช็คการหายใจ ชีพจร ระดับความรู้สึกตัว)
  • การห้ามเลือด พันผ้า ยกเคลื่อนย้ายอย่างถูกหลัก
  • ดูแลอาการเฉพาะหน้า: สำลัก เป็นลม ชัก ภูมิแพ้รุนแรง (anaphylaxis), บาดเจ็บศีรษะ คอ หลัง, งูกัด/สัตว์กัดต่อย
  • CPR + AED: ขั้นตอน ประเมินการตอบสนอง กดหน้าอกตามอัตราที่ถูกต้อง ใช้ AED อย่างปลอดภัย
  • แบบฝึก/สถานการณ์จำลอง (Scenario-based) + การประเมินผล
  • บันทึกเหตุฉุกเฉิน/การส่งต่อ: สื่อสารกับ 1669 และโรงพยาบาลปลายทางอย่างเป็นระบบ
    (อ้างอิงมาตรฐาน/คู่มือในไทยเพื่อความถูกต้องของสาระ). niems.go.th

รูปแบบการอบรมที่ตอบโจทย์องค์กร

  • Public Class: ส่งพนักงานเข้าเรียนรอบที่กำหนดไว้ ต้นทุนต่อหัวชัดเจน เหมาะกับทีมเล็ก
  • In-house/On-site: ผู้สอนเข้าองค์กร ปรับเนื้อหาให้ตรงบริบทจริงและฝึกในพื้นที่เสี่ยงของเรา—คุ้มค่าเมื่อมีผู้เข้าอบรมจำนวนมาก
  • Blended/รีเฟรช: เรียนทฤษฎีออนไลน์ + เวิร์กช็อปภาคปฏิบัติสั้นลง เน้นทบทวนทักษะ
  • ภาษาไทย/อังกฤษ: สำหรับองค์กรที่มีต่างชาติทำงานร่วม

ระยะเวลา/ใบรับรอง/อายุใบเซอร์

  • ระยะเวลาเรียนพบได้ตั้งแต่ 6 ชม., 1 วัน, 2 วัน แล้วแต่ระดับคอร์ส
  • ใบรับรอง: ออกโดยผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต/ตามมาตรฐานหลักสูตร (ควรถามชื่อหลักสูตร หน่วยงานกำกับ และอายุใบเซอร์ เช่น 1–2 ปี)
  • ควรทำ รีเฟรช/อบรมซ้ำ เพื่อคงความแม่นยำในการปฏิบัติจริง
    (อิงแนวทางของสถาบัน/หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศ). training.redcross.or.th+1

ราคาคอร์สและปัจจัยที่มีผลต่อค่าใช้จ่าย

  • ระดับหลักสูตร (Basic / Standard / BLS)
  • รูปแบบการจัด (Public vs In-house) + จำนวนผู้เข้าเรียน
  • อุปกรณ์ฝึก (หุ่น CPR/AED/อุปกรณ์ปฐมพยาบาล) และ ผู้สอนที่มีคุณวุฒิ
  • ภาษาที่ใช้สอน/เอกสาร/พื้นที่ต่างจังหวัด (ค่าเดินทาง)

ในตลาดไทยมีผู้ให้บริการหลายรายที่ระบุแพ็กเกจ/ตัวเลือกชัดเจน และมีบริการแบบองค์กร. (ใช้เพื่อ Benchmark ภายใน ไม่ต้องใส่บนหน้าเงินของเราโดยตรง) Bangkok First Aid+1

เช็กลิสต์ก่อนตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการอบรม

  1. มาตรฐานหลักสูตร/เอกสารอ้างอิงชัดเจน (สอดคล้องกับแนวทาง/คู่มือในไทย) niems.go.th
  2. ผู้สอนมีประสบการณ์ + ประวัติการสอนในอุตสาหกรรมใกล้เคียง
  3. อุปกรณ์ครบ/เพียงพอ ต่อจำนวนผู้เข้าอบรม (สัดส่วนหุ่นต่อคน)
  4. ปรับแผนการสอนตามความเสี่ยงหน้างานได้ (scenario ให้ตรงพื้นที่เสี่ยง)
  5. มีเอกสาร/ใบเซอร์ และระบบติดตามการรีเฟรช
  6. รองรับภาษา/เวลา/โลเคชัน ตามโจทย์องค์กร (รวมถึง On-site ทั่วประเทศ)

ออกแบบทีมตอบสนองฉุกเฉิน (E-Team) ในองค์กร

  • แต่งตั้ง ผู้ผ่านอบรมในแต่ละชั้น/ชั้นงาน/โซน ให้ครอบคลุมเวลาทำงานทั้งหมด
  • กำหนด จุดวางอุปกรณ์ (ชุดปฐมพยาบาล, AED, หมายเลขฉุกเฉิน) และตรวจเช็คเป็นรอบเดือน
  • ทำ SOP การแจ้งเหตุ/ส่งต่อ + ซ้อมแผน ร่วมกับ รปภ./แผนกแพทย์อาชีวอนามัย
  • เก็บ Logbook ทุกครั้งที่เกิดเหตุเพื่อปรับปรุงกระบวนการ

คำถามพบบ่อย (FAQ – AEO พร้อมดึงสรุป)

ถาม: อบรมปฐมพยาบาลใช้เวลากี่ชั่วโมง/กี่วัน?
ตอบ: หลักสูตรพื้นฐานมัก 6–12 ชม. ส่วนมาตรฐาน/มี BLS จะอยู่ที่ 1–2 วัน ขึ้นกับเนื้อหาและการฝึกภาคปฏิบัติ

ถาม: ต้องอบรมซ้ำบ่อยแค่ไหน?
ตอบ: แนะนำทุก 1–2 ปี เพื่อคงทักษะให้แม่น การฝึกซ้ำแบบสั้นช่วยให้กดหน้าอก/ใช้ AED ได้ถูกต้องเมื่อเกิดเหตุจริง

ถาม: ใบรับรองถูกต้องไหม/ใช้ยื่นตรวจได้ไหม?
ตอบ: ควรเลือกผู้ให้บริการที่ระบุชื่อหลักสูตร หน่วยงานอ้างอิง และอายุใบเซอร์ชัดเจน เอกสารครบช่วยรองรับการตรวจของหน่วยงานรัฐได้ดีขึ้น

ถาม: อบรมในองค์กร (In-house) ทำอะไรต่างจาก Public?
ตอบ: ปรับเนื้อหา/สถานการณ์จำลองให้ตรงพื้นที่เสี่ยงจริง ลดเวลาสูญเสียในการเดินทาง และมักคุ้มเมื่อมีผู้เรียนหลายคน

ถาม: ต้องมี AED ไหมถ้าจะอบรม CPR?
ตอบ: แนะนำอย่างยิ่งในพื้นที่คนหนาแน่นหรือกลุ่มเสี่ยง เครื่อง AED ใช้งานง่ายและเพิ่มโอกาสรอดหากหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน โดยควรอบรมการใช้งานควบคู่เสมอ

ทำไมควรเลือก “อบรมปฐมพยาบาล” กับเรา (ThaiSafeAct)

  • หลักสูตรครอบคลุม: ตั้งแต่ Basic → Standard → CPR/AED พร้อมแบบฝึก scenario
  • ผู้สอนมากประสบการณ์: เข้าใจบริบทการทำงานจริงในอุตสาหกรรมไทย
  • In-house ทั่วประเทศ / Public Class รายเดือน: เลือกเวลา/สถานที่ได้ยืดหยุ่น
  • เอกสาร/ใบเซอร์ครบ: ใช้ยื่นตรวจ/อ้างอิงภายในองค์กรได้
  • บริการองค์กรแบบครบวงจร: ใบเสนอราคาเร็ว, ออกบิล/PO ได้, ทีมซัพพอร์ตหลังอบรม

ดูรายละเอียดคอร์ส/รอบถัดไป และขอใบเสนอราคาได้ทันทีที่หน้า “อบรมปฐมพยาบาล” ของเรา

วิธีเตรียมตัวก่อนเข้าเรียนให้ได้ผลสูงสุด

  • สวมใส่เสื้อผ้าที่ เคลื่อนไหวง่าย พร้อมฝึกจริงบนพื้น/กับหุ่น
  • หากมีโรคประจำตัว แจ้งผู้สอนล่วงหน้าเพื่อปรับกิจกรรมให้เหมาะสม
  • ทบทวน เบอร์ฉุกเฉิน 1669 และตำแหน่งอุปกรณ์ที่ทำงานของคุณ
  • ตั้งค่าวัตถุประสงค์การเรียนเป็นทีม: ต้องการทบทวนอะไร/สถานการณ์ใดเกิดบ่อยที่สุด

สรุป

การอบรมปฐมพยาบาลคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดชนิดหนึ่งขององค์กรไทย—ช่วยชีวิตได้จริง ลดเวลาหยุดชะงักในการทำงาน และยกระดับความปลอดภัยโดยรวม เลือกหลักสูตรให้ตรงบริบท กำหนดทีมตอบสนองฉุกเฉิน (E-Team) วางระบบอุปกรณ์/ซ้อมแผน และอบรมซ้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ “นาทีทอง” กลายเป็นโอกาสรอดเสมอ ดูบริการของเรา

แชร์บทความนี้